การกำจัดปลวกด้วยตนเอง

เหล่าสายมินิมอลต้องระวังทั้งมด แมลงและปลวก โดยเฉพาะบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะให้กับปลวก ถึงแม้ว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ จะดูมีความแข็งแรงคงทนด้วยความที่เป็นไม้ แต่ปลวกก็สามารถกัดกินได้อย่างง่ายดายจนเนื้อไม้ข้างในกลวงและเสียสภาพความแข็งแรงคงทนไป ไม่มีใครอยากจะให้บ้านของเรานั้นมีปลวกเกิดขึ้น เราจึงอาจจะต้องมีการจัดหาบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการรับกำจัดปลวกซึ่งเป็นการเสียค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เพราะในตัวบ้านบางหลังนั้นประกอบด้วยไม้อยู่เป็นส่วนใหญ่ อาจจะต้องมีการอัดน้ำยาฉีดพ่นน้ำยาอย่างเข้มข้นและปริมาณสูง แต่จะดีกว่าไหมหากเรามีวิธีการที่สะดวกรวดเร็วและปลอดภัยที่สามารถทำได้เองง่าย ๆ เบื้องต้นได้ที่บ้าน หากว่าเราเริ่มรู้ถึงสัญญาณว่าขณะนี้กำลังมีปลวกบุกบ้านของเราแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีกำจัดปลวกง่าย ๆ มีอะไรบ้าง  วิธีการกำจัดปลวก  อย่างแรกเมื่อเราเห็นถึงสัญญาณเสียงบางอย่างขณะที่ทุกอย่างสงบนิ่งที่ดังออกมาจากเนื้อไม้ของเฟอร์นิเจอร์บ้านเรา รวมทั้งมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นบนตัวเนื้อไม้ในลักษณะที่มีความชื้นเกิดขึ้น สันนิษฐานเลยว่าอาจจะเป็นปลวกอยู่ภายใน ซึ่งวิธีกำจัดปลวกที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือการนำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นไปตากแดด เพื่อเป็นการไล่ปลวกที่อาจจะมาอาศัยอยู่ในเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นออกด้วยวิธีธรรมชาติให้แดดส่องเป็นเวลา 3 – 5 วัน จนกว่าเนื้อไม้จะแห้งสนิท  หรืออีกวิธีการดึงความสนใจของปลวกโดยใช้เหยื่อล่ออาจจะเป็นกระดาษลัง กล่องกระดาษที่อาจจะมีส่วนประกอบของเยื่อไม้นำมาทำให้มีความเปียกชื้น เพื่อให้ส่งกลิ่นออกมาคล้ายคลึงกับเนื้อไม้เพื่อหลอกล่อให้ปลวกได้กลิ่นจะพากันย้ายมาหาแหล่งอาหารใหม่ในกระดาษที่จัดเตรียมเอาไว้นี้ เมื่อปลวกออกมาจากบ้านเราหมดให้เอากระดาษชิ้นนั้นไปเผาทิ้งได้เลย  วิธีสุดท้ายก็คือการนำน้ำยาล้างจานผสมกับน้ำให้เจือจางมากที่สุด นำไปใส่กับภาชนะเปล่าที่สามารถใช้ฉีดพ่นได้ จากนั้นนำไปพ่นให้ทั่วบ้านโดยเฉพาะบริเวณที่น่าสงสัยว่าอาจจะมีปลวกกำลังกัดกินเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นของเราอยู่ ซึ่งภายในตัวน้ำยาล้างจานนั้นจะมีส่วนผสมพิเศษที่สามารถเข้าไปทำลายระบบหายใจของปลวกได้ทำให้สามารถกำจัดปลวกได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อคน  เมื่อเรารู้วิธีการกำจัดปลวกเบื้องต้นแล้วนั้น เพียงเท่านี้เราก็ไม่ต้องไปเสียค่าในการเข้ารับบริการกำจัดพวกเลย เราสามารถทำได้เลยเมื่อเราเห็นถึงความผิดปกติ ทั้งนี้ไม่เพียงแค่ต้องคอยสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในบ้าน แต่เราจะต้องดูแลบ้านไม่ให้มีมุมอับมุมชื้น หรือบริเวณอับสายตาที่อยู่ใกล้แหล่งหน้าต่าง ห้องน้ำ ห้องครัว หรือแม้กระทั่งห้องเก็บของก็มองข้ามไม่ได้ ดังนั้นควรมีการตรวจเช็คบ้านอยู่เสมอ ๆ ดีกว่าจะเจอปัญหาในตอบจนที่มันสายเกินที่จะแก้ไข